ตร.ไม่เรียกอ๊อฟสอบหมิ่นสถาบัน

28/07/2010 15:28

 

อำนวยแถลงมตินครบาลไม่เรียกพงศ์พัฒน์สอบหลังหารือนักกฏหมายแล้วไม่มีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.แถลงว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีมติไม่เรียก นายพงศ์พัฒน์ วิชระบรรจง นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง มารับทราบข้อกล่าวหากรณีนายพงษ์พัฒน์ เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “พ่อ”ในงานประกาศรางวัลนาฏราช เพราะได้ปรึกษากับฝ่ายกฏหมายแล้วเห็นว่า การกระทำของนายพงษ์พัฒน์ ไม่เป็นความผิดทางอาญา คดีหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้แทนพระองค์

อ๊อฟ พงษ์พัฒน์

"ได้สอบปากคำนักภาษาศาสตร์และนักกฎหมายจำนวนหนึ่งแล้วลงความเห็นว่า คำพูดของนายพงษ์พัฒน์ที่พูดในวันเกิดเหตุนั้นไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดดู หมิ่นสถาบันเบื้องสูง และคำพูดที่ว่าพวกเรามีสีเดียวกันคือศีรษะที่จะถวายให้กับพระเจ้าแผ่นดินได้ นี่เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า นายพงษ์พัฒน์มีเจตนาแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงโดยแท้จริง"พล.ต. ต.อำนวยกล่าว

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนนครบาลได้หารือกันแล้วและลงความเห็นเป็นมติที่ ประชุม ว่า นายพงษ์พัฒน์ไม่ได้กระทำความผิดหมิ่นเบื้องสูงจึงมีความเห็นว่าไม่สมควรนำ เรื่องฟ้องร้องต่อศาล และแนบสำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนนครบาลลงความเห็นนี้เสนอต่อคณะกรรมการ บอร์ดสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาสั่งการต่อไป ซึ่งในชั้นนี้พนักงานสอบสวนนครบาลมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง และนายพงษ์พัฒน์ก็ไม่จำเป็นต้องมาให้ปากคำใดๆเพราะไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาและ กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาถือว่าได้คดีได้ยุติแล้ว ส่วนคณะกรรมการบอร์ด สตช.จะลงความเห็นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายภูมิพัฒน์ วงศ์ยาชวลิต หรือ "แน๊ต พีรกร" ศิลปินเพลงลูกทุ่ง ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีนายพงษ์พัฒน์ ที่สน.คันนายาว ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้แทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีขึ้นกล่าวบนเวทีขณะรับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลนาฏราช เมื่อวันที่ 16 พ.ค. โดยนำหลักฐานเอกสารถอดเทปคำพูดในงานดังกล่าวและประวัตินายพงษ์พัฒน์มามอบให้ พนักงานสอบสวน

ก่อนหน้านี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาติดตาม การบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการเกี่ยวกับการพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา และกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ กล่าวถึงกรณีของนายพงษ์พัฒน์ เมื่อได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงในบรรยากาศของงาน แสดงให้เห็นว่า เหล่าศิลปินได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ส่วน ความเหมาะสมของการใช้คำว่า พ่อ เห็นว่า ทุกคนต่างรัก และเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ เสมือนเป็นพ่อของเรา เพราะทรงมีความรักความผูกพันกับพสกนิกรเปรียบประหนึ่งพ่อกับลูกโดยแท้จริง ดังนั้น คำพูดดังกล่าวน่าจะแสดงออกมาจากการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งใด

ขณะที่ดร.อนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาไทย กล่าวว่า กรณีของนายพงษ์พัฒน์ ไม่ถือว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะไม่ใช่คนไทยคนแรกที่เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า“พ่อ” และการที่คนไทยเรียกพระเจ้าแผ่นดินว่าพ่อ ถือว่าเป็นความใกล้ชิด เป็นการแสดงความผูกพัน ความจงรักภักดี เป็นการแสดงออกถึงความเคารพยกย่องถวายพระเกียรติ เป็นการพูดเพื่อให้เกิดความประทับใจ และต้องการสะท้อนให้เห็นว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีแนวคิดไม่ประสงค์ดีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ 

คุณคิดอย่างไรกับประเด็นนี้ ?

No comments found.

New comment



site statistics