โยนรัฐตัดสินยืดพรก.

แม่ทัพภาค1ชี้บึ้มบิ๊กซีไม่เกี่ยวลต.ซ่อมสส.เขต6กทม.โยนรัฐตัดสินใจยืดพรก.ฉุกเฉิน เบาะแสคนร้ายเหลวกล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้         

พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ น่าจะเป็นฝีมือของผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างสถานการณ์ แต่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 เมื่อวานนี้ที่ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ชนะคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ส่วนจะ มีผลกระทบต่อการตัดสินใจยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่หลายจังหวัดหรือไม่ เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และรัฐบาลจะเป็นผู้พิจารณา

ที่รพ.ตำรวจ ชายวัย 51 ปีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุระเบิด ณ จุดทิ้งขยะหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริเมื่อเย็นวานนี้เสียชีวิตลงแล้วหลังจากถูก นำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ส่วนจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีจำนวยทั้งสิ้น 8 ราย
         
ตำรวจ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าระเบิดดังกล่าวน่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง เนื่องจากมีพยานได้ยินเสียงการทำงานของวงจรระเบิดก่อนที่จะเกิดเสียงดังขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกหาข่าวเร่งหาเบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม พบว่าส่วนใหญ่กล้องกล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่หลังการชุมนุมของ นปช.

สตช.คุมเข้มสถานที่ราชการ แหล่งชุมชน

พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา สบ 10 จะเรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดหน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ อีกครั้ง ในเวลา 11.00 น.วันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

วานนี้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ได้เรียก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดคลี่คลายคดีของ สน.ลุมพินี และนครบาล 5 เข้าหารือเพื่อวางแนวทางติดตามคนร้ายและเบาะแสของกลุ่มต้องสงสัย

เบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็สอดคล้องกับการข่าวของเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ตลอดว่าจะ มีการก่อความไม่สงบขึ้น

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ยังระบุว่า รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งให้เพิ่มจุดตรวจและวาง มาตรการคุมเข้มสถานที่ราชการบ้านพักบุคคลสำคัญ รวมถึงแหล่งชุมชนให้มากยิ่งขึ้น.